ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
อยู่ภายในโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ถนนปราจีนอนุสรณ์ ลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นตึกสองชั้นแบบยุโรป สมัยเรอเนสซองส์ เคยใช้เป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อปี พ.ศ. 2455 รวมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์อีกหลายพระองค์คราวเสด็จมณฑลปราจีนบุรี กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน และได้มีการเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์อย่างเป็นทางการ
เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2539 ได้จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้านของจังหวัดปราจีนบุรี เป็นแหล่งการศึกษาค้นคว้าวิจัย และเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพรและการแพทย์ของท้องถิ่น
นอกจากนี้โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ยังมีโครงการทัวร์สุขภาพเป็นโครงการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยว โดยใช้สมุนไพรบำบัดและยารักษาโรค มีการนวด อบ ประคบ และฝังเข็ม แปรรูปสมุนไพรไทยเป็นเวชภัณฑ์
นอกจากนี้โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ยังมีโครงการทัวร์สุขภาพเป็นโครงการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยว โดยใช้สมุนไพรบำบัดและยารักษาโรค มีการนวด อบ ประคบ และฝังเข็ม แปรรูปสมุนไพรไทยเป็นเวชภัณฑ์
วัดแก้วพิจิตร
วัดแก้วพิจิตร เป็นวัดที่สงบร่มเย็น และเป็นวัดนิกายธรรมยุตวัดแรกของ จ.ปราจีนบุรี เกิดขึ้นเมื่อในปี พ.ศ. 2422 โดยคุณยายประมูล โภคา ภายหลังได้รับพระราชทานนาม และนามสกุลจาก พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 คือ คุณยายแก้ว ประสงสิต ท่านเป็นผู้รวบรวมทรัพย์สินที่ดินจากผู้ที่มีจิตศรัทธาร่วมกันบริจาค คุณยายแก้ว ประสงสิต ได้สร้างถาวรวัตถุจน
ครบถ้วนเช่น อุโบสถ วิหาร ศาลาการเปรียญ ด้วยกาลเวลาและการใช้งานเมื่อมีการชำรุดก็จะต้องมีการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลง
ครบถ้วนเช่น อุโบสถ วิหาร ศาลาการเปรียญ ด้วยกาลเวลาและการใช้งานเมื่อมีการชำรุดก็จะต้องมีการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลง
ในปี พ.ศ. 2461 ท่านเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้เห็นถึงการชำรุดของอุโบสถหลังเก่าที่ใช้งานมาเป็นเวลานาน จึงสร้างอุโบสถหลังใหม่ เพื่อทดแทนหลังเก่าที่ชำรุดผุพัง โดยได้รื้ออุโบสถหลังเก่าที่สร้างขึ้นด้วยไม้และสร้างอุโบสถหลังใหม่ขึ้น ทดแทนด้วยการก่ออิฐถือปูนเป็นหลังแรกของจังหวัดปราจีนบุรี
โดยสร้างทับพื้นที่ที่สร้างอุโบสถหลังเดิม ในปัจจุบันนี้มรดกล้ำค่าชิ้นนี้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติโดยกรมศิลปากร เป็นที่ล่ำลือกล่าวขานอย่างมาก เป็นการสร้างที่แปลกเพราะสามารถผสมผสานสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมไว้ได้ถึงสี่ชาติในอุโบสถหลังเดียวกัน
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติปราจีนบุรี
ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังขององค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี ประมาณ 200 เมตร เป็นพิธภัณฑสถานประเภทประวัติศาสตร์โบราณคดี เปิดให้เข้าชมวันพุธ – วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่ เวลา 09.00-16.00 น. ปิดวันจันทร์ วันอังคาร พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์
อยู่ห่างจากตัวเมืองปราจีนบุรี 6 กิโลเมตร ตั้งอยู่ที่ 135 ถ.ปราจีนตคาม ต.ดงขี้เหล็ก อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ไปทาง อ.ประจันตคาม พื้นที่โดยรอบของพิพิธภัณฑ์โอบล้อมไปด้วยพรรณไม้ สวยงามนานาชนิด อีกทั้งยังมีสัตว์สวยงามต่างๆมากมาย เมื่อท่านได้ก้าวเข้าสู่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ท่านจะได้พบกับตะเกียงจำนวนมหาศาล ซึ่งมีแขวนอยู่ทุกๆ ที่ไม่ว่าจะเป็นตามที่จอดรถ ร้านค้าบนเพดานตามอาคารต่างๆ แม้กระทั่งห้องน้ำอีกด้วย พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ มีอาคารทั้งหมด 5 อาคาร คืออาคารที่ 1 อาคารราชาวดี จัดแสดงเกี่ยวกับตะเกียงโบราณ
อาคารที่ 2 อาคารลีลาวดี ประกอบด้วยห้องราชพฤกษ์ (ถ้วยชาม) ห้องชัยพฤกษ์ (เครื่องทองเหลือง) ห้องกัลปพฤกษ์ (จักรยาน) ห้องทองกวาว (ของเล่นเด็ก) ห้องทองหลาง (พระเครื่อง) และห้องทองพันชั่ง (ตราชั่ง)
อาคารที่ 3 อาคารชวนชม จัดแสดงเกี่ยวกับรูปเก่าของเมืองปราจีนบุรี
อาคารที่ 4 อาคารเจ้าพายุ เป็นอาคารรูปทรงตะเกียงเจ้าพายุเพื่อชมวิวโดยรอบ
อาคารที่ 5 อาคารฟ้าประดิษฐ์ จัดแสดงเกี่ยวกับเรือหลากหลายชนิด